รีวิว Pixel 8 Pro จากคนซื้อมาใช้งานจริง ไม่ทดสอบอะไรแปลก ๆ ให้นะ เปลืองตัง

สวัสดีครับ บทความนี้เป็นบทความพิเศษ เพราะว่าก่อนหน้านี้เขียนเกี่ยวกับ Software Engineering Life แต่อันนี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพราะผู้เขียนเพิ่งซื้อมือถือเครื่องใหม่มาใช้งาน เพื่อจุดประสงค์การใช้งานในต่างประเทศ เพราะอีกเครื่องจะยังใช้กับ Store ของไทย เช่น Mobile Banking และอื่น ๆ และก็สรุปได้เป็น Pixel 8 Pro สี Bay มา แต่ว่าก่อนซื้อ ก็มีอะไรเรื่องตัดสินใจหลาย ๆ อย่างสไตล์คนงก ก็เลยบันทึกเอาไว้ พร้อมทั้งแปะรีวิวการใช้ไว้ด้วย ถ้าหากคิดว่าจะเป็นประโยชน์ ก็มาอ่านกันได้เลยครับ บอกก่อนว่า วีดีโอที่ใช้ในบทความนี้ จะมีแค่ของงาน Event เท่านั้นที่มาจากที่อื่น ส่วนวีดีโอหรือรูปที่เหลือ ผู้เขียนถ่ายเองทั้งหมด 🙇‍♂️

Disclaimer: สิ่งที่อยู่ในบทความนี้ เป็นเพียงความคิดและการตัดสินใจของผู้เขียน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ใครอยากซื้ออะไรก็ซื้อ ใครอยากใช้อะไรก็ใช้ครับ ผมงกเลยคิดเยอะ และผมไม่ใช่นักรีวิว ผมแค่พนักงานออฟฟิศที่บังเอิญเขียนโค้ดเป็น 🙇‍♂️

ความเป็นมา

ช่วงกันยายนถึงตุลาคม เป็นช่วงที่ Technology ทาง Smartphone มักจะมีการอัพเดทเข้ามา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยเพราะว่า ผมต้องหามือถือใหม่ให้ตัวเอง ได้ใช้งานที่ต่างประเทศ หรือก็คือที่ญี่ปุ่นน่ะแหละ ปัจจุบันพวกเบอร์หรือเครื่องมือถืออะไรของที่นี่ก็ยังใช้ของบริษัทอยู่เลย ก็เลยต้องหาวิธีออกมาใช้งานส่วนตัวบ้าง และด้วยความที่ว่า ไอผมก็ไม่ได้สนใจโลกมากนักว่าคนจะมองแบบไหน ตัวเลือกผมก็เลยใช้ได้หมดนอกเหนือจาก iPhone ซึ่งในช่วง กันยายนและตุลาคม มีอยู่ 2 รุ่นที่ผมสนใจคือ Apple iPhone กับ Google Pixel หลังจากที่เก็บเงินมาตลอด 1 ปี ในตัวเลือกของผมเลยมีดังนี้

Apple — iPhone 15 Pro Max

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Apple Event วันที่ 20230912

Apple Event - September 12

Google — Pixel 8 Pro

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก MadeByGoogle’23 วันที่ 20230410

#MadeByGoogle '23: Keynote

ทำไมถึงเลือก Pixel ไม่ใช่ iPhone

โดยการที่ยกเป็น Topic ไม่ได้บอกว่า Pixel 8 Pro ดีกว่า iPhone 15 Pro Max แต่เป็นการกระบวนการคิดของผู้เขียนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

Performance

เอาแบบยังไม่ต้องไปดูที่ไหน ผมก็รู้สึกว่า iPhone ชนะแน่นอนในส่วนนี้ ยกให้เลย เพราะตัว Chip รุ่นก่อน ๆ มันก็แรงอยู่แล้ว ส่วนตัว Pixel ก็เด่นคือ Functionality ต่าง ๆ มาจากตัว Google ที่เน้นไปที่เรื่อง AI ซึ่งผมมองว่าจุดขายคนละอย่างกัน

แต่ถ้าหากทุกคนอยากดูเพิ่มเติม ก็สามารถดูข้างล่างได้ เพราะผมเอามาใช้ประกอบพิจารณานิดนึงก่อนซื้อ

Compare Google Pixel 8 Pro vs Apple iPhone 15 Pro Max: which is better? | NR

Pricing

ถ้าจากราคาที่ผมอยู่ที่นี่ เอาแบบ without AppleCare+ ราคาจะเป็นดังนี้

• iPhone 15 Pro Max — 256GB: 189,900 JPY
• Pixel 8 Pro — 256GB: 169,900 JPY

ถ้ามองจากตรงนี้ Pixel ราคาต่ำกว่ามันก็ใช่อยู่หรอก แต่ผมมองว่า iPhone มันมีความนิ่งของมันที่ว่าซื้อมาทีก็ใช้ได้ยาว แม้ว่าบางคนจะมองว่าเปลี่ยนทุกปีมันก็อาจจะคุ้มกว่า แต่โดยส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้แบบนั้น ผมขอไม่ตัดสินเรื่องตัวเลขราคาตรงนี้ เพราะผมจ่ายได้ทั้งคู่

Innovation

รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ Apple เปลี่ยนจาก Innovator กลายเป็น Marketer ไปแล้ว โดยความเห็นส่วนตัวเหมือนกลายเป็น Propaganda ที่ก่อตัวกลายเป็นค่านิยมทางสังคม เทียบกับของ Google ที่พยายามหาอะไรไม่รู้ยัดใส่เข้ามาเพื่อความเสี่ยง และเพิ่ม Limitation การใช้งานของผู้ใช้ แม้ว่าจะมี Propaganda เรื่องของ AI นู่นนี่เช่นกัน ดังนั้น ผมให้ Google ชนะในส่วนนี้

Support

ถ้าเรื่อง Support ในส่วนของ iPhone แน่นอนว่าถ้าจะซื้อมาใช้ มี AppleCare+ จะอุ่นใจมากขึ้นแน่นอน พร้อมกับจ่ายมากขึ้น ส่วนของ Pixel แน่นอนว่ามีเรื่องชูโรง System Update Support 7 ปี แต่โดยส่วนตัวผมไม่สนอ่ะนะ ไม่คิดว่าจะใช้ถึงอยู่แล้ว 7 ปีเนี้ย ก็เลยกลายเป็นว่าในมุมมองของผู้เขียนนั้นแตกออกเป็นแง่มุมดังนี้

1. AppleCare+ ใช้ได้แบบอุ่นใจระดับนึง แบบมีค่าใช้จ่าย
2. Pixel update 7 ปี ฝั่งผมไม่คิดว่าจะใช้ถึง แต่ถ้า Google พูดจริง ก็คนอื่น ๆ ก็จะได้อัพแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

ข้อนี้โดยส่วนตัวผมยกให้ iPhone ชนะ

ความรู้สึก

สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง 2 ตัวนี้ คือ ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดล่าง เป็นเรือธงของแต่ละค่าย และราคาสูงพอสมควร

iPhone

• Ecosystem เป็นระบบปิด และพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ผู้ใช้ออกจาก Ecosystem ยากขึ้น แต่ Ecosystem ของเขาก็เข้าใจง่ายนะ
• ไม่มีข้อกังขาเรื่องการใช้งาน ใช้ได้แบบ All-around ตัว Hardware หรือ Ecosystem ดีหมด
• ราคาเพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิดทุก ๆ ปี
• เหมือน iPhone ผลิตมือถือตัวเดิม ตั้งแต่ iPhone 13 แต่ปรับ Hardware ภายในให้ดีขึ้นอย่างมาก
• คิดว่า iPhone น่าจะมี Privacy สูงกว่าฝั่ง Android นะ
• บางครั้งเวลามีแอปอะไรใหม่ ๆ เข้ามา iOS มักจะได้ก่อน Android เพราะความที่มันระบบปิดเนี่ยแหละ การรองรับเลยมี Scope ที่เล็กลงหน่อย

Pixel

• แค่ความรู้สึกตอนเห็นครั้งแรก ก็รู้สึกว่า Computation power ของ Pixel น้อยกว่า iPhone แน่ ๆ
• จุดขายของ Chip ที่ Pixel ใช้ Google Tensor G3 ดูก็รู้เลยว่า Optimize มาใช้กับ AI ของ Smartphone
• ลูกเล่น AI เยอะเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ดีเลิศ Perfect อะไร
• ตัดเสียงรบกวน อันนี้ถ้าได้จริง คือดีมาก ๆ
• เพราะเป็น Ecosystem ใหม่ ก็เลยคิดว่าต้องเอาบทเรียนจากเจ้าอื่น ๆ ไปใช้บางแหละ
• ราคาเพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิดทุก ๆ ปี เช่นกัน แต่ไม่รู้สึกเท่าของ Apple ที่อย่างที่ผมบอกว่า เปลี่ยนจาก Innovator กลายเป็น Marketer ไปแล้ว

ดังนั้นการตัดสินใจมักมีความเสี่ยงตามมา และต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเองได้ คำตอบของผมหลังจากพิจารณาหลาย ๆ ข้อโดยยึดจากสัญชาตญาณตัวเองเป็นหลัก คือ Pixel 8 Pro

Review

ตั้งแต่แกะกล่องเลย

มาส่งแล้วจ้าาาา แหม หมดกันเงินเก็บส่วนค่ามือถือ แต่ผมจะถ่ายมาให้ดูแค่ตัวกล่องของ Pixel อย่างเดียวนะ พอดีมีอะไรไม่รู้ติดไม้ติดมือมาเต็มไปหมด

หลังจากเปิดเครื่องก็ Setup อะไรให้เรียบร้อย มาถึงหน้าจุดขายแรกแล้ว AI Wallpaper งั้นมา Setup ด้วย AI Wallpaper ซะหน่อย

อ้าว GG ดิงี้ เท่เกิน ใช้ Paint ป่ะเนี้ย

สรุปใช้ตัวตั้งต้นไปก่อน 🤣

Screen Brightness

ออกไปถ่ายตอนกลางวันละกัน เพราะอันนี้มันต้องมีปัญหามากที่สุดเวลามีแดด ในภาพคือปรับสูงสุด และก็ขอบคุณ Pixel มากที่ไม่ทำให้ผิดหวัง สว่างจ้าาาาาาาา

Camera & Image quality

ไม่รู้สิ เอามาใส่ในบทความมันจะลดความละเอียดลงมั้ยนะ แต่ก็ใส่ไปก่อนละกัน ภาพเปรียบเทียบระหว่าง 12MP (ซ้าย) vs 50MP (ขวา)

12MP vs 50MP

อันนี้ Front camera ไม่มีให้เลือก

แล้วถ้าเกิดถ่ายตอนกลางคืนล่ะ 12MP vs 12MP Night Sight vs 50MP แต่ตัว 50MP Night Sight นี่ ผมรู้สึกมันรวมมาให้ใน 50MP แล้วเรียบร้อย เลยเอามาให้แค่ 3 รูป

อันนี้ Front camera ตอนกลางคืน

ส่วนเรื่องของการ Zoom ที่เขาบอกว่า มัน Enhance มา ไหนมาดูกันหน่อย (x1/x2/x5)

Best take feature

สรุป Google บอกเราไม่หมด หลังจากลอง Algorithms ด้วยตัวเอง คำว่า Best Take ก็คือ

กดหลาย ๆ รูป แล้วเอาหน้าดีที่สุดของแต่ละคน มารวมกันที่รูปเดียว

ดังนั้น

• แค่เปลี่ยนหน้าด้วยรูปเดียว ไม่ได้ครับ ต้องกดหลาย ๆ รูป ที่มี pattern ในภาพส่วนใหญ่ ๆ คล้าย ๆ กัน
• มัน Magic แต่ Magic นี้มีกฎให้ทำตาม
• รูปเดี่ยว Selfie เปลี่ยนได้ครับ

สำหรับ Developer ที่กด API เป็นแตกอย่างผมทดสอบ ผมก็จะใช้กลุ่มตัวอย่างแบบนี้

รูปต้นแบบ

Set รูปคล้าย ๆ กัน

Best take แบบเดี่ยว

Magic Editor

ตัวนี้เขาก็พอว้าวเหมือนกันนะ แต่ถ้าจากผมผู้ใช้งาน แล้วลองรูปแบบนอกเหนือจากที่เขาเตรียมมา Demo ก็ดังภาพที่แนบมา ไม่ Fully God Mode ขนาดนั้น Object มันย้ายนะ แต่เงาไม่มา GG guys พื้นไหม้ไปเลย

สรุปได้ว่า ถ้า Object นั้น มันกลมกลืนกับ Background หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องในรูป มันทำได้ แต่มันไม่ได้จบมาจาก Hogwarts ขนาดนั้น

Audio Magic Eraser

ต้องทำวีดีโอขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย 555555 ไหนลองอัดแบบมีเสียงจิ้งหรีดกันหน่อย (สำหรับคนดูรีวิว ไม่ต้องตามไปกด Subscribe ก็ได้นะครับ อันนั้น channel ให้ความรู้ Coding fundamental)

แต่งด้วย Audio Eraser

ผลลัพธ์ที่ได้ สำหรับผม ผลลัพธ์น่าพอใจครับ

อุณหภูมิกาแฟ จากเครื่องวัดอุณหภูมิของ Pixel

แหมมม ก็มันร้อนเกินไปเนาะ ก็เลยต้องวัดก่อนค่อยกิน (เน้นมีม) โดยในส่วนนี้ต้องเข้าแอป Thermometer ที่เขาติดมาด้วยก่อน

สรุป Content ของบทความอื่น ๆ

สไตล์ผม ไม่อ่ะ ไปเอาของคนอื่นมาวางมั่วซั่ว เดี๋ยวโดนว่าอีก เอาของตัวเองมา Summarize เลยดีกว่า

แตกกกกกกกกจ๊อยยยย อ๊ะ ๆ สงสัย Grammar กากเกิน เอาจาก Google Blog เลยละกัน

เหมือนเดิม โอเค สงสัยยังไม่อัพเดท 😭

แม้ว่าทาง Google Blog จะบอกว่า “Available in U.S. English only.” แต่ว่าเครื่องผมเซ็ตเป็น English (United States) แล้ว (เพราะอ่านญี่ปุ่นไม่ออก) ดังนั้นไม่น่าเกี่ยว ผมเลยสรุปว่า ยังไม่อัพเดท นอกจากนี้ คำว่า Summarize ผู้เขียนเป็นคนพิมพ์เอง ไม่มีปุ่มให้ Tap

อุณหภูมิเครื่อง

โดยส่วนตัวไม่รู้จะเอาอะไรมาช่วยอธิบาย แต่ว่าใช้ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ ดู Youtube ยังไม่อุ่นเท่าตอนเอาไปเสียบสายชาร์จ 😅

Battery Life

มันเครื่องใหม่อยู่ ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาวัดว่ามันลดไวมั้ย แต่ตอนลองใช้ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ ดู Youtube มันก็ลดพอประมาณนะหลังจากใช้ติดต่อกันประมาณ 2–3 ชั่วโมง ไม่ได้เอามาเล่นเกมด้วย ก็เลยไม่มีวิธีการเผา Battery

นอกจากนี้ มันมี feature อื่น ๆ ด้วย แต่ผมไม่ได้ใส่มา เพราะอย่างที่บอก ก็เป็นมือถือที่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันเฉย ๆ

สรุปส่งท้าย

ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงความคิดเห็นและมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น ถ้าถามว่าอันไหนดีไม่ดี อันนี้แล้วแต่คนใช้งาน ใครสาวก Apple ก็กด iPhone ได้เลย ใครยึดถือตามค่านิยมทางสังคมก็กด iPhone ใครอยากลองความลงตัวทาง Technology AI และ Smartphone ก็เป็น Pixel ครับ ส่วนใครมีข้อจำกัดเรื่องราคา ถามผมแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า หารุ่นอื่นที่ไม่ใช่ 2 ตัวนี้ครับ 😆

จะเห็นว่าบางอันอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ อาจจะอัพเดทในภายหลัง หรือมันจบที่ตรงนี้เลย ก็แล้วแต่ Google เขาละกัน

สำหรับผมแนวเด็ก Nerd นั่งหน้าคอม อยู่กับคอม เขียนโปรแกรม เขียน Blog แฟนไม่มี ถ่ายแต่วิว จริง ๆ อันไหนก็ได้ครับ แต่ผมเลือก Pixel เพราะผมอยากลองดูว่า AI in my hands มันจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน ตอนแรกก็คิดจะเอา iPhone เพราะ Apple ID ย้ายมาเป็นของญี่ปุ่นก่อนแล้ว แต่หลังจากคิดอีกที สมัครอีก Email เพื่อใช้ PlayStore ของอีกประเทศก็ดีเหมือนกัน ไหน ๆ ก็อยู่ญี่ปุ่นอีกตั้งหลายปี

สุดท้ายนี้ก็ถ้าหากใครอยากสอบถามเพิ่มเติม หรือจะ Make connection กันไว้ก็สามารถมาที่ช่องทางนี้ได้เลยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าครับ ขอให้ทุกคนมีความสุข 🙇‍♂️

Facebook: Thanaphoom Babparn
FB Page: TP Coder
LinkedIn: Thanaphoom Babparn
Linktree: https://linktr.ee/tpbabparn